หน้าหลัก แผนที่ ติดต่อเรา ร่วมงานกับเรา  



พอเห็นชื่อนี้แฟนๆ ไอเก็ตคงต้องร้องอ๋อ เพราะถ้าลองพลิกนิตยสารดูจะเห็นคอลัมน์ที่เขียนโดย “ณัฐวรรธน์” อยู่หลายคอลัมน์
โดยเฉพาะในคอลัมน์ยอดฮิต A trip to the World ที่ทำโพลกี่ครั้งก็ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับต้นๆ

แนะนำตัวเองกับผู้อ่านสักเล็กน้อยค่ะ
ผมณัฐวรรธน์ครับ ชื่อนี้เป็นนามปากกาและเป็นชื่อจริงของผมด้วย

หลายคนบอกคุ้นชื่อ “ณัฐวรรธน์” มาก เพราะเปิดไปตรงไหนในเล่มก็เจอ ตอนนี้รับผิดชอบอยู่กี่คอลัมน์คะ?
คอลัมน์ที่เขียนมี 4 คอลัมน์ครับคือ A Trip to the World, Moving Movie, Right Writing และฝรั่งพูดคนไทยงง

คุณณัฐวรรธน์เล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมคะว่าเรียนจบมาทางด้านใด แล้วตอนนี้กำลังทำงานอะไรอยู่
ผมจบจากคณะรัฐศาสตร์ที่จุฬา ฯ ครับ เคยทำงานประจำด้านท่องเที่ยวอยู่หลายปี จนช่วงปี 2007 ก็หันมาทำงานอิสระเต็มตัว
คือ เป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษและทำงานด้านการแปล ซึ่งงานทั้ง 2 ด้านมีส่วนช่วยให้ผมได้พัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นอีกเยอะมากครับ ส่วนตัวแล้วผมรักงานอิสระมาก เพราะเราจัดเวลาการทำงานของตัวเองได้เต็มที่ แต่เมื่อมีจังหวะที่เหมาะสมเข้ามา ในที่สุดตอนนี้ผมก็มีโอกาสได้กลับไปทำงานประจำ ซึ่งก็คือรับราชการครับ

เริ่มต้นเข้ามาร่วมงานกับ I Get English ได้ยังไงคะ
เริ่มจากผมเห็นประกาศรับสมัครนักเขียนในเว็บไซต์ รู้สึกว่าเป็นงานที่น่าสนใจก็เลยลองเขียนส่งมาดู เป็นบทความท่องเที่ยวประเทศอียิปต์
ต่อมาทางนิตยสารแจ้งกลับว่าบทความของผมผ่าน แต่ให้ไปขัดเกลาเนื้อหาบางส่วน จนได้ตีพิมพ์ในฉบับที่ 12 จากนั้นก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับทาง
I Get English มาตลอด โดยเริ่มจากคอลัมน์ A Trip to the World และต่อมาก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลคอลัมน์อื่นๆ ด้วยตามที่บอกไปครับ

แต่ละคอลัมน์ที่ทำมีจุดเด่นแตกต่างกันไปยังไงบ้าง
สำหรับ A Trip to the World เป็นคอลัมน์พาเที่ยว ซึ่งพอพูดถึงการเดินทาง ผมคิดว่าประโยชน์อย่างหนึ่งของมันคือเราจะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
จากดินแดนต่างๆ จุดนี้จึงเป็นประเด็นหลักเวลาที่ผมเขียนคอลัมน์นี้เลยครับ คือจะพยายามสรรหาเรื่องราวหรือกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ มานำเสนอ
คอลัมน์ Moving Movies เป็นการดึงเอาศัพท์ สำนวนที่น่าสนใจของหนังมานำเสนอ ประโยชน์คือ ผู้อ่านจะได้เรียนรู้ภาษาในรูปแบบที่ตำราภาษา
อังกฤษมักไม่สอน เช่น ภาษาที่ไม่สุภาพ หรือ ภาษาพูดที่เจ้าของภาษาใช้กันจริงๆ นอกจากนั้น ก็ยังได้รู้คำศัพท์เฉพาะด้านที่เกี่ยวกับหนังเรื่องนั้นๆ เช่น ด้านการทหาร หรือ การเดินเรือ ครับ
สำหรับคอลัมน์ ฝรั่งพูดคนไทยงง จะเน้นศัพท์หรือสำนวนที่แปลตามตัวไม่ได้ โดยนำเสนอในรูปแบบบทสนทนาเพื่อให้ผู้อ่านลองเดาความหมาย
ของสำนวนจากบริบทก่อนจะอธิบายครับ
ส่วน Right Writing จะเกี่ยวกับการเขียนรูปประโยคที่หลากหลาย โดยใช้โครงสร้างที่นำเสนอไว้เป็นแบบ เช่น ประโยคขอโทษ ประโยคบรรยายรูป
พรรณสัณฐาน เป็นต้น หลักการคือ ผมไม่อยากให้ผู้อ่านท่องจำทีละประโยค เช่น ขอโทษเรื่องส่งสินค้าผิดได้ แต่พอจะขอโทษเรื่องทำโปรเจคงานไม่เสร็จกลับเขียนไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผมจะให้โครงสร้างประโยคพื้นฐานไว้เป็นแบบ แล้วผู้อ่านสามารถสับเปลี่ยนคำเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายตรงกับความต้องการได้ ถึงแม้ว่าเนื้อหาของแต่ละคอลัมน์จะต่างกัน แต่ผมคิดว่าประโยชน์หลักร่วมกันก็คือ ผู้อ่านมีโอกาสได้พัฒนาความรู้ภาษาอังกฤษในด้านศัพท์และสำนวนให้มากขึ้นครับ

ทำไมถึงชอบภาษาอังกฤษคะ ภาษาอังกฤษสนุกยังไง
จำได้ว่าเริ่มชอบภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ ม.1 จุดเริ่มต้นเพราะอาจารย์สวยและใจดีมาก พอทำคะแนนออกมาได้ดีหลายๆ ครั้งเข้า ความชอบ
ความสนใจก็ยิ่งมากขึ้น อะไรที่ไม่รู้ก็อยากรู้ อะไรที่รู้แล้วก็อยากรู้ให้ลึกซึ้งเข้าไปอีก
ส่วนคำถามว่าภาษาอังกฤษสนุกยังไง ผมว่าพอเกิดทัศนคติที่ดีขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างในวิชานั้นสนุกหมดครับ มันเป็นไปเองเลย เรื่องคำศัพท์ก็สนุก
อย่างเช่นภาษาไทยเรียกแบบนี้ แล้วภาษาอังกฤษเรียกว่ายังไง พอได้รู้มันเหมือนได้เติมเต็มความรู้สึกครับ เรื่องการออกเสียงก็สนุก เช่น ได้เปรียบเทียบภาษาอังกฤษสำเนียงต่างๆ เรื่องโครงสร้างไวยากรณ์ แน่นอนคนที่ไม่ชอบก็บอกน่าเบื่อสุดๆ แต่สำหรับคนที่ชอบ มันคือความท้าทายครับ พอได้นำคำศัพท์ที่รู้มาลองผูกประโยคเป็นโครงสร้างใหม่ๆ ได้ มันทำให้ผมสนุกมากๆ ครับ

คิดว่าส่วนที่ยากที่สุดของการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร
ผมว่าเป็นเรื่องสำเนียงครับ เพราะทำยังไงก็ไม่เหมือนฝรั่งพูดซักที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงเสียงหนักเบาทั้งในคำและในประโยค
หรือการขึ้นเสียงสูงเสียงต่ำ

เคล็ดลับการฝึกฝนภาษาอังกฤษในแบบ “ณัฐวรรธน์”
อยู่กับมันให้บ่อยที่สุดครับ ในแต่ละวันที่ตื่นขึ้นมา คิดไว้เลยวันนี้ถ้าไม่ได้พูด ก็ขอให้ได้อ่าน ถ้าไม่ได้อ่าน ก็ขอให้ได้ฟัง ถ้าไม่ได้ฟัง ก็ขอให้ได้เขียน
เอาเป็นว่าใน 4 ทักษะ คุณมีโอกาสฝึกทักษะไหนก่อนก็ฝึกทันทีครับ
เคยมีอาจารย์ท่านนึงสอนไว้ว่า ภาษา ดนตรี กีฬา ทั้ง 3 อย่างนี้เป็นทักษะ หมายความว่าต้องทำซ้ำๆ มันถึงจะเก่ง ผมมักถามนักเรียนเหมือนกันว่า
ที่เธอฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้คล่องขนาดนี้ เธอทำครั้งเดียวหรือเปล่า แน่นอนทุกคนบอกว่าเปล่า พอผมถามว่า งั้นทำกี่ครั้ง ทุกคนตอบไม่ได้ เพราะมันมากมายนับครั้งไม่ถ้วน ผมบอกนั่นล่ะ ก็ให้ทำแบบนั้นกับภาษาอังกฤษเหมือนกัน หรืออย่างนักดนตรีหรือนักกีฬา ผมก็ท้านักเรียนเลยว่า ถ้าใครเอาบทสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ หรือในเว็บ ที่มีนักดนตรีหรือนักกีฬาพูดไว้ว่า เขาไม่เคยฝึกซ้อมเลย วันๆ กินๆ นั่งๆ นอนๆ หรือเล่นเกมอยู่ที่บ้าน แล้วถึงเวลาแข่งหรือเวลาแสดงก็เล่นได้เลย แล้วชนะได้ที่หนึ่งหรือเหรียญทองมาได้ล่ะก็ ให้เอาบทสัมภาษณ์นั้นมาขึ้นเงินที่ผมได้เลย 500 บาท ตอนนี้ผมสอนหนังสือมา 4 ปีกว่า ไม่เคยมีนักเรียนคนไหนหาบทสัมภาษณ์ที่ว่าได้เลย เพราะแน่นอนทุกคนรู้ดีว่า กว่านักดนตรีหรือนักกีฬาเหล่านั้นจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์หรือเป็นที่หนึ่งได้ ทุกคนต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งก็คือต้องอยู่กับดนตรีหรือกีฬาชนิดนั้นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเองครับ

อยากบอกอะไรกับคนที่กำลังท้อกับการฝึกฝนภาษาอังกฤษ
มีคำคมชุดนึง ผมไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่มันอยู่ปกหลังของคู่มือภาษาอังกฤษที่ผมอ่านสมัยเตรียมสอบเข้ามหาลัย จนถึงตอนนี้ก็ยังจำได้ดี
เลยอยากแชร์กับคุณผู้อ่านไว้ด้วยครับ

Learning is difficult, sometimes painful. การศึกษาเล่าเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งมันก็เจ็บปวด
But pain makes man think. แต่ความเจ็บปวดทำให้เราได้คิด
Thought makes man wise. และความคิดทำให้เราเกิดปัญญา
Wisdom makes life endurable. และปัญญาช่วยให้ชีวิตรับมือกับอุปสรรคได้